วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ทริปสวนผึ้ง ราชบุรี 2 วัน 1 คืน ( Part 4 ) : ธารน้ำร้อนบ่อคลึง , บ้านหอมเทียน (กลางวัน)

ทริปสวนผึ้ง ราชบุรี 2 วัน 1 คืน ( Part 4 ) : ธารน้ำร้อนบ่อคลึง , บ้านหอมเทียน (กลางวัน)

ข้อมูลทริป
วันที่ 5-6 ธันวาคม 2558
สถานที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
เดินทางโดย มอเตอร์ไซค์ Honda Super Cub
งบประมาณ คนละ 2,000 บาท

สถานที่ท่องเที่ยว : ฟาร์มเมล่อนโคโรฟิลด์ , ร้านกาแฟโมอาย , ฟาร์มแกะ The Snenery Vintage Farm , ตลาดน้ำ Veneto , ร้าน Crazy Bee , ตลาดจูงมือ , น้ำตกเก้าชั้น , ธารน้ำร้อนบ่อคลึง , บ้านหอมเทียน
-----------
ต่อจาก Part 3
http://journeyofmumu.blogspot.com/2015/12/2-1-part-3.html



หลังจากออกจากน้ำตกเก้าชั้น เราก็แวะไปที่ "ธารน้ำร้อนบ่อคลึง" ซึ่งอยู่ใกล้ๆกันมาก

ธารน้ำร้อนบ่อคลึง คือ ธารน้ำร้อนธรรมชาติที่ร้อนด้วยอุณหภูมิใต้ผิวโลก ที่นี่เป็นสถานที่ของเอกชน มีการสร้างทางน้ำบางส่วนให้ไหลมาลงสระที่ทำไว้ และเปิดให้คนมาแช่น้ำ 



ที่นี่เก็บค่าเข้าชมสถานที่คนละ 5 บาท ส่วนคนที่อยากแช่น้ำ เสียคนละ 30 บาท สำหรับบ่อดิน และ 50 บาท สำหรับบ่อกระเบื้อง ส่วนใครมาพักที่นี่ สามารถเข้าได้ทุกสระ ฟรี

แต่จากการหาข้อมูลล่วงหน้ามาแล้ว เราสองคนตัดสินใจจะเข้าไปดูธารน้ำร้อนเฉยๆโดยไม่แช่น้ำ 
เหตุผลเพราะ...
- น้ำที่นี่ไม่ร้อน แค่อุ่นๆ ราวๆ 35-45 องศา ไม่ร้อนแบบออนเซ็นญี่ปุ่น (ไปทดลองเอามือวักๆน้ำมาแล้ว แค่อุ่นๆจริงๆ)
- น้ำในสระดูสกปรก ค่อนข้างขุ่น (น่าจะเป็นเพราะไม่มีระบบแบบสระว่ายน้ำ และผู้คนไม่รักษาความสะอาด)
- วุ่นวาย แคบ แออัด ไม่รีแล็กซ์ มีเด็กเล่นน้ำค่อนข้างหนวกหู คนไทยไม่มีวัฒนธรรมการแช่น้ำแบบสงบเรียบร้อย ต่างจากวัฒนธรรมออนเซ็นของญี่ปุ่น
- วิวทิวทัศน์ไม่สวยงามอย่างในรูป คนเยอะ ดูสกปรก วุ่นวาย

ถ้าอยากแช่น้ำร้อนแบบออนเซ็นญี่ปุ่น แนะนำว่าไปที่อื่นดีกว่า 

แต่เรามาแวะ เพราะอยากจะดูต้นธารน้ำร้อน นอกจากนี้ที่นี่ก็เป็นทางผ่านไปน้ำตก และเสียแค่ 5 บาท พวกเราเดินต่อไปเพื่อไปดูต้นธารน้ำร้อนก็พบว่า...


มีป้ายที่บอกว่า " น้ำในลำธารชาวบ้านใช้ดื่ม ห้ามเอาเท้าลงไปแช่"
แต่แล้วก็พบว่า กลุ่มมนุษย์ลุง-ป้าจำนวนมาก เอาเท้าลงไปแช่กันตรึม เป็นภาพที่น่าเกลียดเอามากๆ
นี่แหละค่ะ... ประเทศไทย 

   ต้นธารน้ำร้อน น้ำจะมีอุณหภูมิสูงกว่าน้ำในบ่อสระที่จัดไว้ให้ผู้คนมาแช่ 

    ต้นธารน้ำร้อนน่าจะมีอุณหภูมิราวๆ 60 องศา น่าแช่มาก ทำให้มีคนแอบเอาเท้ามาแช่เป็นจำนวนมาก

   ต้นธารน้ำร้อน ทดลองเอามือจุ่มลงไปวัดอุณหภูมิ พบว่าร้อนมาก (ไม่ได้เอาเท้าแช่)


หลังจากกลับออกมา ตอนเที่ยง เราก็ไปเก็บข้าวของและเช็คเอาท์ออกจากโบ๊ทเฮาส์รีสอร์ท 
ใจอยากจะกินข้าวเที่ยวที่ร้านเครซี่บีอีกรอบ แต่ข้างเมื่อเช้ายังแน่นกระเพาะอยู่เลย น่าเสียดาย


      พวกเราตัดสินใจแวะ " บ้านหอมเทียน" อีกรอบหนึ่ง เมื่อคืนเราแวะเข้าฟรีไปถ่ายรูป ด้วยความประทับใจ วันนี้จะแวะไปเสียค่าเข้าชมและชมบรรยากาศตอนกลางวัน ไปชมภาพบรรยากาศกันเลยดีกว่า

    ตั๋วเข้าบ้านหอมเทียน สวยงาม 

   ได้มาถ่ายรูปตรงนี้สมใจอยาก ด้านหลังเป็นภูเขาประเทศพม่า

   เมื่อซื้อตั๋วเข้าชม 60 บาท สามารถนำมารับเทียนหอมที่ระลึกได้คนละ 1 ชิ้น

   บริเวณร้านกาแฟตอนกลางวัน น่านั่งมากๆ

   ถังขยะของบ้านหอมเทียน จะมีหน้าตาแบบนี้ทุกใบ

   ป้ายร้านขายขนมบ้าบิ่น ชวนให้อยากลองซื้อมาก

   ซื้อมาลองชิมแล้ว หอมน้ำมะพร้าวมากๆ กรอบนอกนุ่มใน อร่อยสุดๆขอบอกต่อ

   ข้าวเกรียบว่าว ทำสดๆ ชวนน่ากินมากๆ

   ทอดมันย่างร้อนๆ รสอร่อยเข้มข้นสะใจ ย่างกรอบนอกนุ่มใน กัดเข้าไปอย่างฟิน

   มะกรูดลอยแก้ว กระปุกละ 35 บาท รสมันๆ หวานๆ เปรี้ยวนิดๆ กลิ่นคล้ายมะนาว อร่อยมากๆ

   โซนขายต้นไม้สวยงาม ...มะเขือการ์ตูน เป็นมะเขือสีเหลืองหัวเป็นแฉกๆ น่ารักมาก

สรุป บ้านหอมเทียน เป็นสถานที่ที่เน้นจำหน่ายเทียนก็จริง แต่มีการตกแต่งสถานที่สร้างบรรยากาศ เปรียบเสมือนว่านักท่องเที่ยวได้หลุดเข้าไปในหมู่บ้านในนิยายแห่งหนึ่ง ซึ่งมีบรรยากาศแบบย้อนยุค ร้านค้าแต่ละร้านที่นี่จะไม่ซ้ำกันและตกแต่งร้านกันแบบสุดๆ นอกจากร้านขายเทียนแล้ว ยังมีร้านขายอาหาร ขายเครื่องดื่ม ขายยาแผนโบราณ ขายเครื่องหนัง ขายกระเป๋าผ้า ขายต้นไม้สวยงาม ขายผลไม้แปรรูป ขายเครื่องประดับ ขายเสื้อผ้า และมีซุ้มเกมและกิจกรรมให้ทำมากมาย

เราอาจจะไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศมาจนครบ แต่คุณสามารถดูรูปเพิ่มเติมได้โดยเสิชเกี่ยวกับบ้านหอมเทียน เพราะมีคนพูดถึงไว้มากมาย

บ้านหอมเทียน ก็เป็นสถานที่สุดท้ายของทริปสวนผึ้ง ราชบุรี ก่อนจะตีรถกลับกรุงเทพฯตอนเวลาบ่ายสองกว่าๆ และถึงกรุงเทพฯ ตอนค่ำๆพอดี

เมื่อนึกถึงเรื่องราวการเดินทางในครั้งนี้ทีไร ก็รู้สึกอยากจะกลับมาเยี่ยมชมที่สวนผึ้งอีกครั้ง
- ชมธรรมชาติ ภูเขา น้ำตก ดูป่าไผ่เปลี่ยนสีสวยงาม
- เล่นกับแกะน่ารักๆ ชมเมืองยุโรปแบบวินเทจ 
- กินอาหารอร่อยจากเชฟ
- ฟาร์เมล่อนสไตล์ญี่ปุ่นน่ารักๆ
- บ้านหอมเทียน ย่านร้านค้าที่ตกแต่งแบบไทย
- และอื่นๆอีกมากมาย

ทั้งหมดนี้ คือความทรงจำดีๆ ที่เราสองคนจะไม่มีวันลืม



สำหรับทริปนี้ Mumu กับ N ขอบอกลาเพียงเท่านี้ 

ทริปต่อไปพวกเราจะไปที่ไหนกันอีก ....

โปรดติดตามชมด้วยนะคะ บ๊ายบาย.... :)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น