วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ทริปสวนผึ้ง ราชบุรี 2 วัน 1 คืน ( Part 1 ) : ฟาร์มเมล่อน Corofield และร้านกาแฟโมอาย

ทริปสวนผึ้ง ราชบุรี 2 วัน 1 คืน ( Part 1 ) : ฟาร์มเมล่อน Corofield และร้านกาแฟโมอาย

ข้อมูลทริป
วันที่ 5-6 ธันวาคม 2558
สถานที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
เดินทางโดย มอเตอร์ไซค์ Honda Super Cub
งบประมาณ คนละ 2,000 บาท

สถานที่ท่องเที่ยว : ฟาร์มเมล่อนโคโรฟิลด์ , ร้านกาแฟโมอาย , ฟาร์มแกะ The Snenery Vintage Farm , ตลาดน้ำ Veneto , ร้าน Crazy Bee , ตลาดจูงมือ , น้ำตกเก้าชั้น , ธารน้ำร้อนบ่อคลึง , บ้านหอมเทียน

-------



อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง
อากาศเย็น วิวธรรมชาติงดงาม เป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวไว้หลากหลายรูปแบบ
ที่มีชื่อเสียงมากๆ ก็คือ ฟาร์มแกะ The Scenery Vintage Farm , บ้านหอมเทียน และน้ำตกเก้าชั้น

ก่อนออกเดินทาง พวกเราจะวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 2 อาทิตย์
โทรจองที่พัก เก็บข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ดูรีวิวของคนที่เคยไป ดูแผนที่ เส้นทาง พยากรณ์อากาศ
จริงอยู่ว่า สไตล์การเดินทางแบ็คแพ็คของบางคน อาจจะชอบไปแบบไม่วางแผน
แต่จากประสบการณ์ของเรา การวางแผนก่อนจะทำให้วางแผนงบประมาณและตารางเวลาได้เฉียบขาดกว่า 
เราวางแผนไปโดยคาดหวังความเป๊ะเอาไว้แค่ 60% ก็พอ แล้วที่เหลือค่อยปรับแผนเอาทีหลังดีกว่า
อย่างเช่น เราดูพยากรณ์อากาศล่วงหน้าว่า วันที่ 5 ธ.ค. 58 ฝนจะมีโอกาสตก 30-40% ในช่วง 11 โมง บ่าย 3 และ 1 ทุ่ม ปรากฎว่า ตอน 11 โมงไม่ตก แต่ตอนพอใกล้ๆบ่าย 3 อากาศเหนียวเหนอะมาก พวกเรารีบซิ่งกลับที่พักทันที ฝนตกแรงมากๆตั้งแต่บ่าย 3 จนถึง 4 โมง ถ้าเราไม่ได้ดูพยากรณ์อากาศ อาจจะแย่ก็ได้
นี่เป็นข้อดีของการวางแผนล่วงหน้า ซึ่งทำให้การท่องเที่ยวนั้นมีความลื่นไหล คุ้มค่าทั้งงบและเวลา

พวกเราแพ็คของขึ้นมอเตอร์ไซค์ เริ่มออกเดินทางตอน 6 โมง ของเช้าวันที่ 5 ธ.ค. 58
เดินทางถึงอำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี ตอนราวๆ 10 โมง (แวะพักจุดพักรถ 2 ครั้ง ที่ละ 20 นาที)


จุดหมายแรก คือ " โคโรฟิลด์" ใครๆที่จะเดินทางไปสวนผึ้ง ย่อมต้องพบกับร้านนี้อย่างง่ายดาย เพราะเป็นทางผ่านพอดี 



โคโรฟิลด์ เป็นฟาร์มเมล่อน สไตล์ญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยมัสคอต "โคโรโระคุง" ซึ่งมีเนื้อเรื่องว่า โคโรโระคุงเป็นชาวสวนของที่นี่ และจะออกมาดูแลต้นไม้ตอนกลางคืน หลังจากทุกคนหลับไปหมดแล้ว

   โคโรโระคุง มัสคอตของที่นี่ ตัวนี้เป็นแบบใส่ชุดกันฝนญี่ปุ่นโบราณ

   โคโรโระคุง กับเหล่าพืชผัก น่ารักสุดๆ

หลังจากจอดรถบริเวณด้านหน้าแล้ว พนักงานต้อนรับของโคโรฟิลด์ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีราวกับพนักงานของญี่ปุ่นที่ถูกฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี สร้างความประทับใจให้กับพวกเราอย่างมาก

    ช่วงที่ไปนี้ มีอีเวนท์ Harvest Festival


ที่นี่สามารถเข้าเยี่ยมชมฟาร์มบางส่วนได้ฟรี เช่น ฟาร์มมะเขือเทศฮอลแลนด์ ฟาร์มผัดสลัดปลอดสารพิษ ถั่วแระญี่ปุ่น และมันเทศญี่ปุ่น แต่ในส่วนของฟาร์มเมล่อนซึ่งอยู่ในเรือนกระจก จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม 

   โคโรโระคุงอุ้มลูกเมล่อน

   โคโรโระคุง ในสวน

   ขอเลียนแบบท่าบ้าง


   ฟาร์มผักออร์แกนิคมากมาย สะอาด สวยงาม น่ารัก

    โห น่ารักยังเลยอ่ะ

   มะเขือเทศจิ๋ว พันธุ์ฮอลแลนด์ ถ้าจ่าย 200 บาท จะสามารถเก็บมะเขือเทศได้

   ป้ายอย่างน่ารัก

   ได้ทั้งความสดชื่น ได้ทั้งความรู้


ฟาร์มที่นี่สวยงาม เป็นระเบียบ น่ารัก มีป้ายแนะนำเกร็ดความรู้เป็นระยะ พร้อมกับมัสคอตโคโรโระคุงสุดน่ารัก ทำให้เรารู้สึกราวกับอยู่ในฟาร์มของประเทศญี่ปุ่นจริงๆ

โคโรฟิลด์มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเก็บมะเขือเทศสดๆกลับบ้าน เรียนรู้การปลูกต้นไม้ หรือตกแต่งสวนต้นไม้จิ๋วพร้อมเอากลับบ้าน



   โคโรโระคุง เวอร์ชั่นอาบแดด ลานตรงนี้ ตอนกลางคืนจะมีการจัดเป็นลานนั่งดื่มและฟังดนตรีชิลล์ๆ




   วิธีการปลูกต้นไม้ รูปประกอบน่ารักมาก เหมือนญี่ปุ่นจริงๆ 
   ที่นี่ถ้าเราทำกิจกรรมปลูกต้นไม้จะได้ตั้งชื่อต้นไม้ที่เราปลูกด้วย พร้อมมีใบอุปถัมภ์ เหมือนสัตว์เลี้ยง



   บอนไซจิ๋ว น่ารักๆ ซื้อแล้วเอามาตกแต่งได้เองฟรี

    สวนขวด หลากหลายรูปแบบ


    โซนร้านขายของที่ระลึก น่ารักมาก ราคาไม่แพง หวังว่าในอนาคตจะขายตุ๊กตาโคโรโระคุง

ในส่วนของคาเฟ่ ที่นี่จัดวางเลย์เอาท์ได้ดีมากๆ สวยงาม สะอาด เป็นระเบียบ เมนูอาหารไม่แพงเกินไปเมื่อเทียบกับคุณภาพ 

   Melon Katsuo อร่อย แปลก แหวกแนว ราคา 145 บาท เมล่อนชิ้นใหญ่มาก กินแทนข้าวได้เลย

   มีป้ายแนบวิธีกินมาด้วย น่ารัก

พวกเราลองสั่งเมนูแปลกๆที่ชื่อว่า "Melon Katsuo" ราคา 145 บาท เมื่ออาหารถูกนำมาเสิร์ฟ เราพบว่า เป็นเมล่อนสดๆผ่าเสี้ยว ราดด้วยซอสญี่ปุ่นรสเปรี้ยวหวาน โรยหน้าด้วยปลา Katsuo แห้ง เสิร์ฟพร้อมสลัดมะเขือเทศฮอลแลนด์ นอกจากนี้ยังตกแต่งจานได้สวยมากๆ มีป้ายบอกวิธีกินซะด้วย เมื่อลองชิมดู พบว่าเป็นการผสมผสานของรสชาติที่แปลกแต่มีความลงตัว อร่อยมากเลยทีเดียว เมล่อนที่นี่สดมากๆ หวานฉ่ำ ซอสมีกลิ่นหอมโชยุ หอมปลา Katsuo แห้ง โคโรฟิลด์ เป็นที่ที่เราประทับใจในความน่ารัก สวยงาม และผ่อนคลาย 

   ข้างล่างนั่น...ป้ายทางไปห้องน้ำ มันต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ

   ตัวผู้หญิงหัวเป็นดอกไม้ด้วย

   ห้องน้ำคนพิการ

    รูปบนกระจกห้องน้ำชาย

   รูปบนกระจกห้องน้ำหญิง

   โคโรโระคุงโผล่จากดิน น่ารัก

เราจะต้องกลับมาแวะที่ โคโรฟิลด์ อีกครั้งอย่างแน่นอน!!....

หลังจากนั้น เราได้ขับผ่านร้านกาแฟโมอาย "Moai Coffe" ร้านกาแฟที่มีการตกแต่งด้วยรูปปั้นโมอาย 
ร้านกาแฟโมอายกับโคโรฟิลด์จะอยู่ใกล้ๆกัน ขับผ่านแวะถ่ายรูปได้เลย โดยจะมีโมอายในหลายๆอิริยาบถให้ถ่ายรูปด้วย มีขายของที่ระลึกรูปทรงโมอาย เช่น แก้วกาแฟ เสื้อ และอื่นๆ 

   โมอาย โดดเด่น ใหญ่โต โมอายเต็มไปหมด

   โมอาย ห้องน้ำชาย

    โมอาย ห้องน้ำหญิง

   เสื้อที่ระลึก ราคา 190 บาท มีหลายลายให้เลือก

นอกจากนี้บริเวณด้านหนึ่งจะมีฟาร์มแกะและสโตนเฮ้นจ์ ค่าเข้าชม 40 บาท แต่ถ้าอยากจะเล่นกับแกะ เราแนะนำว่าไป The Scenery Vintage Farm ทีเดียวเลยดีกว่า

โปรดติดตาม Part 2 
http://journeyofmumu.blogspot.com/2015/12/2-1-part-2-scenery-vintage-farm-veneto.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น