วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ทริปสวนผึ้ง ราชบุรี 2 วัน 1 คืน ( Part 3 ) : ตลาดจูงมือ , บ้านหอมเทียน(กลางคืน) , น้ำตกเก้าชั้น

ทริปสวนผึ้ง ราชบุรี 2 วัน 1 คืน ( Part 3 ) : ตลาดจูงมือ , บ้านหอมเทียน(กลางคืน) , น้ำตกเก้าชั้น 

ข้อมูลทริป
วันที่ 5-6 ธันวาคม 2558
สถานที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
เดินทางโดย มอเตอร์ไซค์ Honda Super Cub
งบประมาณ คนละ 2,000 บาท

สถานที่ท่องเที่ยว : ฟาร์มเมล่อนโคโรฟิลด์ , ร้านกาแฟโมอาย , ฟาร์มแกะ The Snenery Vintage Farm , ตลาดน้ำ Veneto , ร้าน Crazy Bee , ตลาดจูงมือ , น้ำตกเก้าชั้น , ธารน้ำร้อนบ่อคลึง , บ้านหอมเทียน
-----------
ต่อจาก Part 2
http://journeyofmumu.blogspot.com/2015/12/2-1-part-2-scenery-vintage-farm-veneto.html

พอท้องอิ่มแล้ว ก็เริ่มตระเวณยามรามตรีกัน เริ่มจาก"ตลาดจูงมือ" ซึ่งอยู่ใกล้ๆที่พัก


    ตลาดจูงมือ ตลาดนัดขายของทำมือน่ารักๆที่พึ่งจะเปิดใหม่ในสวนผึ้ง



ตลาดจูงมือ เป็นตลาดกลางคืนที่พึ่งเปิดใหม่ เข้าได้ฟรี ขายงานศิลปะทำมือ งานเพนท์ กระเป๋าผ้า มีวงดนตรีเล่นสดอยู่ตรงกลาง มีเครื่องดื่มและอาหารขาย บรรยากาศที่นี่ค่อนข้างน่ารักและโรแมนติกสามารถมานั่งชิวๆสบายๆกับเพื่อนๆได้ที่นี่ 

   หน้าทางเข้าตลาดจูงมือ

   คนเยอะเหมือนกัน ไม่มีที่นั่งเลย
 
   วงดนตรีเล่นสด ทานอาหารใต้แสงเทียน บรรยากาศโรแมนติกมากๆ


    ซุ้มร้านค้าขายงานแฮนด์เมด และของกระจุ๊กกระจิ๊กต่างๆ

   ห้องน้ำน่ารักดี



ตอนราวๆ ทุ่มกว่าๆ พอดีขับรถผ่าน"บ้านหอมเทียน" เลยทดลองแวะเข้าไปดู 

บ้านหอมเทียน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นำชื่อเสียงมาสู่อำเภอสวนผึ้ง ในสมัยก่อนนั้นบ้านหอมเทียนจะเน้นขายเทียนหอมรูปทรงต่างๆโดยเปิดให้เข้าฟรี ปัจจุบันมีการขยับขยายพื้นที่ มีร้านค้าเพิ่มขึ้น แต่จุดเด่นที่ทำให้สถานที่แห่งนี้มีชื่อเสียง คือ การออกแบบตกแต่งสถานที่ ที่คงคอนเซ็ปต์ของ "ไทยย้อนยุค" โดยมีการนำของเก่าของสะสมของไทยๆมาตกแต่งสถานที่อย่างเก๋ไก๋และอาร์ตมากๆ มีมุมถ่ายรูปเยอะแยะไม่รู้เบื่อ 

   เอาเครืองมือช่างมาตกแต่งผนัง อาร์ตจริงๆ

ปกติที่นี่เก็บค่าเข้าคนละ 60 บาท แต่ตอนหัวค่ำซึ่งมีร้านเปิดค่อนข้างน้อย ที่นี่ให้เข้า ฟรี! รออะไรล่ะ...เข้าไปสำรวจบ้านหอมเทียนตอนกลางคืนกันเลย
    ที่ขายบัตรเข้าบ้านหอมเทียน ตกแต่งแบบโรงจำนำ ตอนที่ไปตอนกลางคืนนั้นปิดขายบัตรแล้วและเข้าชมฟรี

   ค่ำแล้ว เข้าชมฟรี แต่ร้านค้าเปิดบ้างไม่เปิดบ้าง

   ตามทางเดินก็มีเทียน โรแมนติกดี แต่อาจจะมีคนเดินเตะเทียนบ้าง อิอิ

   ป้ายบอกทางไปที่ต่างๆในบ้านหอมเทึยน

    เทียนหอม สารพัดสี สารพัดแบบ แถมราคาไม่แพง เริ่มต้นแค่อัน 20-30 บาทเอง

    ร้านขายเสื้อที่ระลึกของบ้านหอมเทียน

   ซุ้มทางเดินที่เต็มไปด้วยแสงเทียน

    เทียนในแก้วช็อตเล็กๆ โรแมนติกมาก
  
    ร้านขายเครื่องดื่ม ราคาไม่แพง

นอกจากการเลือกซื้อเทียนหอมรูปร่างเก๋ไก๋แปลกตา ผู้เข้ามาเยี่ยมชมสามารถใช้เวลาหลายๆชั่วโมง เดินดูการตกแต่งสถานที่ด้วยของเก่าของสะสม ทดลองทำเทียนหอมด้วยตนเอง ซื้อขนมไทยโบราณ ยาแผนโบราณ ทานอาหารที่เสิร์ฟในจานสังกะสี ชิมไอศครีมกะเหรี่ยง จิบกาแฟ นั่งชมวิวทิวทัศน์บนยอดเขา

   บริเวณที่นั่งจิบกาแฟ ตกแต่งอย่างเริ่ด มีอะไรตกแต่งผนังบ้าง ลองสังเกตดู 

     ป้ายสุดเขตประเทศไทย ภาคตะวันตก ด้านหลังเป็นวิวภูเขา ต้องมาดูตอนกลางวัน

   เอาป้ายทะเบียนมาติดเยอะๆ ชวนให้นึกถึง"การเดินทาง"

   แก๊งเป็ดยักษ์ ทำด้วยเทียน เห็นแบบนี้ตัวสูงเป็นเมตรเลยนะ

     ป้ายรถบรรทุก เอามาจัดตกแต่ง ได้บรรยากาศสุดๆ

    ปี๊บลูกอมเก่าๆก็เอามาแต่งได้

   ตู้หมุนไข่ เพียบ ...แต่คิดว่าคงไม่ได้เอามาให้คนทั่วไปเล่น น่าจะแค่เอามาแต่งเฉยๆ


   ใครชอบวินเทจ เราโทร เดินดูของย้อนวัยกันสนุกสนานเลยทีเดียว

  ถ้าเงยหน้าขึ้นไปมองเพดาน จะมีอะไรแขวนเป็นโมบายสวยงามอยู่เพียบเลย ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการเดินทาง เช่น แขวนกระเป๋าเดินทาง รถจักรยานเก่า รถเด็กเล่นเก่าๆ

    ว่าแล้ว ว่าห้องน้ำก็ตกแต่งไม่ธรรมดา

   อ่างล้างหน้าห้องน้ำหญิง

วันนี้นำรูปบบรรยากาศบ้านหอมเทียนตอนกลางคืนมาฝากก่อน ไว้พรุ่งนี้จะมาอีกครั้งตอนกลางวัน เพราะอยากจะเห็นวิวยอดเขา กับภาพร้านค้าทึ่เปิดแบบเต็มๆ

หลังจากนั้น พวกเราก็กลับมานอนพักผ่อนตอนราวๆ 3 ทุ่มครึ่ง...


    ตอนเช้าหนาวมากๆ

         วันถัดมา 7 โมงเช้า ไม่รอช้า เราจะชิมอาหารเช้าของเชฟให้ได้ รีบไปที่ครัวโบ๊ทเฮ้าส์ หรือร้านเครซี่บี ลูกค้าที่มาพักโบทเฮ้าส์รีสอร์ท จะได้ฟรีอาหารเช้าเป็นขนมปังปิ้ง ชา กาแฟ โอวัลติน แต่เราต้องการมากกว่านั้น อิอิ จัดเมนูหนักท้องชุดใหญ่กันเลยทีเดียว กินกันจนจุกกันไปข้าง

   เมนูอาหารเช้า อร่อยระดับโรงแรม แต่ราคาสบายๆ

   ออมเล็ตกุ้ง ออมเล็ตแบบที่ข้างในไข่ยังค่อนข้างเหลวข้น มีชีสกับผักโขมอยู่ข้างในด้วยนะ อร่อยมากๆ เสิร์ฟพร้อมไส้กรอกพันเบคอน และสลัดผัก

     แหวกให้ดูไข่เยิ้มๆ รสกลมกล่อม หอมเนย โอ้ย พิมพ์ไป น้ำลายไหล

   ข้าวผัดเครซี่บี สูตรเฉพาะของร้าน ผักชีที่เอามาตกแต่ง ถูกจัดวางอย่างโปร


  ข้าวผัดเครซี่บี เป็นข้าวผัดหมูสับกับผักสามสี ปรุงรสเผ็ดเล็กน้อย โรยด้วยผงโรยข้าวญี่ปุ่นรสปลาแห้ง และวางเคียงด้วยปลาไข่ชุบแป้งบางๆทอดกรอบ

   
   ข้าวผัดปลาห่อไข่ สูตรเฉพาะของร้าน ตกแต่งอย่างสวยงาม

   ใต้ไข่เจียว ยังมีปลาไข่ชุบแป้งทอดซ่อนอยู่อีก

หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อย เวลา 9 โมงพอดี เรากับ N รีบเดินทางไปดู"น้ำตกเก้าชั้น" พวกวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ ต้องรีบไปดูตอนเช้า เพราะจะยังไม่ค่อยมีคนมา ไม่วุ่นวาย อากาศเย็นสบาย

   ขับผ่านฝูงม้ากำลังแทะเล็มหญ้าตอนเช้า


 


    ถึงแล้ว น้ำตกเก้าชั้น

น้ำตกเก้าชั้น มีชื่อเดิมว่า น้ำตกเก้าโจน ซึ่งคำว่า โจน มาจาก กระโจน 
แต่ชื่อน้ำตกเก้าโจน ฟังดูเหมือน น้ำตกเก้าโจร ดูน่ากลัว ภายหลังเขาจึงเปลี่ยนชื่อเป็นน้ำตกเก้าชั้น
นั่งท่องเที่ยวทั่วไปสามารถเดินเที่ยมชมได้ถึงน้ำตกชั้นที่ 4 แต่หลังจากนั้นทางจะชันและอันตรายมากๆ ต้องเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี


ที่นี่ เสียค่าเข้าชม คนละ 10 บาท เป็นค่าบำรุงสถานที่ 

    สะพานแขวน จุดชมวิว

เมื่อเดินไปตามทางเรื่อยๆ พบว่าริมน้ำตกเป็นป่าไผ่กำลังผลัดใบ ใบไผ่เป็นสีส้ม สวยงามเหมือนเมืองนอกเลยทีเดียว 

   ใบไผ่เปลี่ยนสี

    อะเมซซิ่งไทยแลนด์ สวยงามไม่แพ้เมืองนอก

   ป่าไผ่ ขึ้นแทรกท่ามกลางโขดหิน


ตามพื้นดินของที่นี่จะมีหินควอทซ์อยู่เป็นจำนวนมาก ส่องประกายตามพื้นเป็นจุดๆเหมือนมีหิมะอยู่เป็นกองจิ๋วๆ เป็นธรรมชาติที่สวยงามมาก


    ถึงแล้ว น้ำตกชั้นแรก

   หน้าหนาว น้ำค่อนข้างน้อยกว่าปกติ แต่น้ำตกก็ยังสวยงาม

   เหล่าเด็กๆเล่นน้ำ

ตามทางเดิน มีเศษขยะจากนักท่องเที่ยวเป็นระยะ ซึ่งทำให้ไม่น่ามอง และเป็นการทำลายธรรมชาติ ที่ใดมีมนุษย์ ที่นั่นย่อมมีขยะ หวังว่าสักวันหนึ่งทุกๆคนจะมีจิตสำนึกในการไม่ทิ้งขยะตามทางน้ำตก จะได้คงธรรมชาติที่สวยงามในบ้านเราเอาไว้


น้ำตกเก้าชั้น อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี อาจเป็นน้ำตกที่ไม่ดังเท่าที่อื่น แต่ที่นี่มีธรรมชาติที่สวยงามมากๆ อยากจะให้ลองมาเที่ยวชมกัน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ราวๆ 170 กิโล สามารถไปเช้าเย็นกลับได้ ใครสนใจลองแวะมาดูนะ

------- 
โปรดติดตามต่อใน Part 4 (ตอนสุดท้าย)
http://journeyofmumu.blogspot.com/2015/12/2-1-part-4.html



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น