ทริปสวนผึ้ง ราชบุรี 2 วัน 1 คืน ( Part 3 ) : ตลาดจูงมือ , บ้านหอมเทียน(กลางคืน) , น้ำตกเก้าชั้น
ข้อมูลทริป
วันที่ 5-6 ธันวาคม 2558
สถานที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
เดินทางโดย มอเตอร์ไซค์ Honda Super Cub
งบประมาณ คนละ 2,000 บาท
สถานที่ท่องเที่ยว : ฟาร์มเมล่อนโคโรฟิลด์ , ร้านกาแฟโมอาย , ฟาร์มแกะ The Snenery Vintage Farm , ตลาดน้ำ Veneto , ร้าน Crazy Bee , ตลาดจูงมือ , น้ำตกเก้าชั้น , ธารน้ำร้อนบ่อคลึง , บ้านหอมเทียน
-----------
ต่อจาก Part 2
http://journeyofmumu.blogspot.com/2015/12/2-1-part-2-scenery-vintage-farm-veneto.html
พอท้องอิ่มแล้ว ก็เริ่มตระเวณยามรามตรีกัน เริ่มจาก"ตลาดจูงมือ" ซึ่งอยู่ใกล้ๆที่พัก
ตลาดจูงมือ เป็นตลาดกลางคืนที่พึ่งเปิดใหม่ เข้าได้ฟรี ขายงานศิลปะทำมือ งานเพนท์ กระเป๋าผ้า มีวงดนตรีเล่นสดอยู่ตรงกลาง มีเครื่องดื่มและอาหารขาย บรรยากาศที่นี่ค่อนข้างน่ารักและโรแมนติกสามารถมานั่งชิวๆสบายๆกับเพื่อนๆได้ที่นี่
ตอนราวๆ ทุ่มกว่าๆ พอดีขับรถผ่าน"บ้านหอมเทียน" เลยทดลองแวะเข้าไปดู
บ้านหอมเทียน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นำชื่อเสียงมาสู่อำเภอสวนผึ้ง ในสมัยก่อนนั้นบ้านหอมเทียนจะเน้นขายเทียนหอมรูปทรงต่างๆโดยเปิดให้เข้าฟรี ปัจจุบันมีการขยับขยายพื้นที่ มีร้านค้าเพิ่มขึ้น แต่จุดเด่นที่ทำให้สถานที่แห่งนี้มีชื่อเสียง คือ การออกแบบตกแต่งสถานที่ ที่คงคอนเซ็ปต์ของ "ไทยย้อนยุค" โดยมีการนำของเก่าของสะสมของไทยๆมาตกแต่งสถานที่อย่างเก๋ไก๋และอาร์ตมากๆ มีมุมถ่ายรูปเยอะแยะไม่รู้เบื่อ
ปกติที่นี่เก็บค่าเข้าคนละ 60 บาท แต่ตอนหัวค่ำซึ่งมีร้านเปิดค่อนข้างน้อย ที่นี่ให้เข้า ฟรี! รออะไรล่ะ...เข้าไปสำรวจบ้านหอมเทียนตอนกลางคืนกันเลย
ตามทางเดินก็มีเทียน โรแมนติกดี แต่อาจจะมีคนเดินเตะเทียนบ้าง อิอิ
นอกจากการเลือกซื้อเทียนหอมรูปร่างเก๋ไก๋แปลกตา ผู้เข้ามาเยี่ยมชมสามารถใช้เวลาหลายๆชั่วโมง เดินดูการตกแต่งสถานที่ด้วยของเก่าของสะสม ทดลองทำเทียนหอมด้วยตนเอง ซื้อขนมไทยโบราณ ยาแผนโบราณ ทานอาหารที่เสิร์ฟในจานสังกะสี ชิมไอศครีมกะเหรี่ยง จิบกาแฟ นั่งชมวิวทิวทัศน์บนยอดเขา
ป้ายสุดเขตประเทศไทย ภาคตะวันตก ด้านหลังเป็นวิวภูเขา ต้องมาดูตอนกลางวัน
เอาป้ายทะเบียนมาติดเยอะๆ ชวนให้นึกถึง"การเดินทาง"
ปี๊บลูกอมเก่าๆก็เอามาแต่งได้
ว่าแล้ว ว่าห้องน้ำก็ตกแต่งไม่ธรรมดา
วันนี้นำรูปบบรรยากาศบ้านหอมเทียนตอนกลางคืนมาฝากก่อน ไว้พรุ่งนี้จะมาอีกครั้งตอนกลางวัน เพราะอยากจะเห็นวิวยอดเขา กับภาพร้านค้าทึ่เปิดแบบเต็มๆ
หลังจากนั้น พวกเราก็กลับมานอนพักผ่อนตอนราวๆ 3 ทุ่มครึ่ง...
วันถัดมา 7 โมงเช้า ไม่รอช้า เราจะชิมอาหารเช้าของเชฟให้ได้ รีบไปที่ครัวโบ๊ทเฮ้าส์ หรือร้านเครซี่บี ลูกค้าที่มาพักโบทเฮ้าส์รีสอร์ท จะได้ฟรีอาหารเช้าเป็นขนมปังปิ้ง ชา กาแฟ โอวัลติน แต่เราต้องการมากกว่านั้น อิอิ จัดเมนูหนักท้องชุดใหญ่กันเลยทีเดียว กินกันจนจุกกันไปข้าง
ออมเล็ตกุ้ง ออมเล็ตแบบที่ข้างในไข่ยังค่อนข้างเหลวข้น มีชีสกับผักโขมอยู่ข้างในด้วยนะ อร่อยมากๆ เสิร์ฟพร้อมไส้กรอกพันเบคอน และสลัดผัก
ข้าวผัดเครซี่บี สูตรเฉพาะของร้าน ผักชีที่เอามาตกแต่ง ถูกจัดวางอย่างโปร
หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อย เวลา 9 โมงพอดี เรากับ N รีบเดินทางไปดู"น้ำตกเก้าชั้น" พวกวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ ต้องรีบไปดูตอนเช้า เพราะจะยังไม่ค่อยมีคนมา ไม่วุ่นวาย อากาศเย็นสบาย
ถึงแล้ว น้ำตกเก้าชั้น
น้ำตกเก้าชั้น มีชื่อเดิมว่า น้ำตกเก้าโจน ซึ่งคำว่า โจน มาจาก กระโจน
แต่ชื่อน้ำตกเก้าโจน ฟังดูเหมือน น้ำตกเก้าโจร ดูน่ากลัว ภายหลังเขาจึงเปลี่ยนชื่อเป็นน้ำตกเก้าชั้น
นั่งท่องเที่ยวทั่วไปสามารถเดินเที่ยมชมได้ถึงน้ำตกชั้นที่ 4 แต่หลังจากนั้นทางจะชันและอันตรายมากๆ ต้องเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี
ที่นี่ เสียค่าเข้าชม คนละ 10 บาท เป็นค่าบำรุงสถานที่
เมื่อเดินไปตามทางเรื่อยๆ พบว่าริมน้ำตกเป็นป่าไผ่กำลังผลัดใบ ใบไผ่เป็นสีส้ม สวยงามเหมือนเมืองนอกเลยทีเดียว
ตามพื้นดินของที่นี่จะมีหินควอทซ์อยู่เป็นจำนวนมาก ส่องประกายตามพื้นเป็นจุดๆเหมือนมีหิมะอยู่เป็นกองจิ๋วๆ เป็นธรรมชาติที่สวยงามมาก
หน้าหนาว น้ำค่อนข้างน้อยกว่าปกติ แต่น้ำตกก็ยังสวยงาม
เหล่าเด็กๆเล่นน้ำ
ตามทางเดิน มีเศษขยะจากนักท่องเที่ยวเป็นระยะ ซึ่งทำให้ไม่น่ามอง และเป็นการทำลายธรรมชาติ ที่ใดมีมนุษย์ ที่นั่นย่อมมีขยะ หวังว่าสักวันหนึ่งทุกๆคนจะมีจิตสำนึกในการไม่ทิ้งขยะตามทางน้ำตก จะได้คงธรรมชาติที่สวยงามในบ้านเราเอาไว้
น้ำตกเก้าชั้น อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี อาจเป็นน้ำตกที่ไม่ดังเท่าที่อื่น แต่ที่นี่มีธรรมชาติที่สวยงามมากๆ อยากจะให้ลองมาเที่ยวชมกัน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ราวๆ 170 กิโล สามารถไปเช้าเย็นกลับได้ ใครสนใจลองแวะมาดูนะ
-------
โปรดติดตามต่อใน Part 4 (ตอนสุดท้าย)
http://journeyofmumu.blogspot.com/2015/12/2-1-part-4.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น