วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ทัวร์ชิม อินโดนีเซีย..ข้าวเกรียบ...ข้าวเกรียบเต็มไปหมด..!!

    ทัวร์ชิมอินโดนีเซีย วัฒนธรรมชวา

   
    เมื่อต้นปี 2014 เรากับ N มีธุระที่อินโดนีเซีย
    ด้วยความประทับใจในวัฒนธรรมที่แปลกตา จึงขอเอาเรื่องอาหารการกินมาเล่าสู่กันฟัง



     10 มกราคม 2557 เวลาเที่ยง พวกเราเริ่มออกเดินทางด้วยเครื่องของ Air Asia

     ลองสั่งอาหารบนเครื่องมาลองชิมดู เพื่อเป็นการประเดิม"ทัวร์ชิม"ของทริปครั้งนี้

    Nasi Minyak Palembang โดย sexy chef นามว่า Farah Quinn
    ข้างในหน้าตาจะเป็นยังไงน้า?...

   ชะแว้ง... Nasi Minyak Palembang ข้าวมีรสชาติคล้ายๆข้าวหมกอิสลาม โปะด้วยลูกเกด เสิร์ฟกับเอ็นวัวและเนื้อวัวตุ๋นเปื่อยรสเค็มหวาน เครื่องเคียงเป็นผักกวางตุ้งต้มกับแครอทต้ม รสชาติโอเค


   ขึ้นเครื่องจากไทยราวๆเที่ยง ลงเครื่องถึงราวๆบ่ายสามโมง สู่สนามบินโซเอกาโมฮัตตา อินเตอร์เนชั่นแนลแอร์พอร์ต ณ กรุงจาร์กาต้า ประเทศอินโดนีเซีย

   สนามบินที่นี่โหดมาก ตู้เครื่องดับเพลิงของสนามบิน ปกติบ้านเราใช้มือทุบกระจก แต่ที่นี่มีค้อนวางไว้ให้ทุบเสร็จสรรพ

ตอนลงจากสนามบิน รู้สึกตกใจกับอากาศของที่นี่ เพราะมีความร้อนชื้นสูงมากๆ เหมือนอากาศเวลาใกล้ฝนจะตก สภาพรูปร่างหน้าตาของคนที่นี่เป็นคนจีนผสมกับคนชวา คล้ายๆคนภาคใต้บ้านเรา บ้านเมืองเจริญมาก ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง คือ ที่อินโดนีเซียนี้ แฟชั่นเกาหลีไม่บูมเท่าไร ไม่เหมือนบ้านเรา พวกเค้าค่อนข้างจะแต่งตัวธรรมดาๆ


   ลงเครื่องปุ๊บ ท้องหิวปั๊บ มาทานข้าวในห้างกับเพื่อนอินโดนีเซีย ชื่อ ริสกี้ (ด้านหลังสุด)

   สะเต๊ะ ของอินโดนีเซีย เค้าออกเสียงว่า "สะไต๊" อันนี้เป็นสะเต๊ะไก่ รสชาติเหมือนไก่ย่างนมสดรสชุ่มฉ่ำ ซอสของสะเต๊ะที่นี่ไม่เหมือนบ้านเรา ของเค้าเป็นซอสที่คล้ายกับพีนัทบัตเตอร์ 

   ข้าวกับ สะเต๊ะไก่ เสิร์ฟเป็นเซ็ต เคียงด้วยสลัดแขกและข้าวเกรียบ น้ำสลัดแขกคงจะเดารสชาติได้ ก็ออกหวานมัน มีถั่วบดนั่นแหละ

   Gado Lonlong สลัดแขกใส่ลองตอง 

   ลอนตอง คือ แป้งที่ทำจากข้าว ม้วนเป็นแท่ง แล้วหั่นเป็นท่อนสั้นๆ รสชาติเหมือนขนมผักกาด 

   กาโดลอนตอง ประกอบด้วยผักต้มต่างๆ ได้แก่ ถั่วงอก ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี ผักกาดขาว คลุกเคล้ากับ แตงกวาสด เต้าหู้ทอด เต้าหู้แข็ง และ ลอนตอง ราดน้ำสลัดที่มีรสชาติเหมือนน้ำจิ้มสะเต๊ะในไทย ซอสรสกะทิมันหวานเผ็ดใส่ถั่วบด โรยข้าวเกรียบไว้ด้านบน

    บอกอยากกินอาหารพื้นเมืองอินโดนีเซีย เพื่อนอินโดของเราก็จัดให้...

   Nasi Berkat แปลเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวแห่งเทพเจ้าประทานพร" เค้าบอกว่า แต่เดิมอาหารจานนี้ เค้าเอาไว้ไหว้เทพเจ้า พอไหว้เสร็จ คนก็เอามากินกัน จนกระทั่งกลายมาเป็นเมนูในปัจจุบันนี้

Nasi Berkat ประกอบไปด้วย 
1.ข้าวสวย 
2.เนื้อตุ๋นอิสลามรสเค็มหวาน 
3.ปีกไก่ย่างหมักเครื่องเทศโรยแป้งทอดกรอบ 
4.ผัดผักอะไรสักอย่างรสเผ็ดร้อน 
5.บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปผัดซีอิ๊ว
6.ผักต้มคลุกซอสกะทิ
7.ขนมหวานคล้ายกระยาสาทร
8.แตงกวาสดราดน้ำพริกสุดเผ็ด
9.แคนตาลูปเขียวหั่นชิ้น

ใส่ปากช่วงแรกๆ อร่อยๆๆๆ เผ็ด เค็ม หวาน มัน หลังๆเริ่มเลี่ยนจนแทบจะกินไม่ไหว 

หลังกินเสร็จ เรารู้สึกเหมือนกินข้าวสวยคลุกลอดช่องน้ำกะทิ 

อาหารชวาแท้ๆ เน้นหวาน มัน เผ็ดเบาๆ ใครไม่ถนัดกินหวานๆมันๆ ท่าทางจะลำบาก

   หลังอาหารเย็น เรามาเช็คอินที่โรงแรม Harris ซึ่งเพื่อนเราจองไวัให้

    ที่นี่เป็นทั้งโรงแรมและห้าง ย่านใจกลางเมืองจาร์กาต้า


 พักอยู่ชั้นที่ 43 เดี๋ยวขอตัวไปนอนพักผ่อนก่อน แล้วเจอกันใหม่พรุ่งนี้เช้า



   เช้าวันที่ 11 มกราคม 2557 ถ่ายจากโรงแรม ชั้น 43 เห็นวิวทั่วเมืองจาร์กาต้า

    ภาพคู่มือในห้องโรงแรม มีบอกวิธีหนีสึนามิด้วย !!

วันนี้มากินข้าวกันที่นี่ล่ะ

   ภาพตรงกลางนั่นคือ กล้วยปิ้งโรยชีส !

   ชนมปังปิ้ง ทานูเทลล่า โรยพาร์เมซานชีส

   ประเทศนี้เป็นประเทศที่ชีสราคาถูก กระทั่งร้านอาหารรถเข็นก็ยังโรยชีสกันเป็นว่าเล่น น่าอิจฉาจริงๆเลย


  Nasi Goreng Buntuk ข้าวผัดพริกแกง ใส่หางวัว และไข่ดาว อร่อยมาก ว่าแต่ทำไมมีข้าวเกรียบมาด้วยอีกแล้วล่ะนี่ !?

   เครื่องดิ่มที่คนอินโดนีเซียฮิตที่สุด ไม่ใช่โคล่าแต่อย่างใด แต่เป็น "ชาดำเย็น"ยี่ห้อนี้ รสหวานน้อย

   ประเทศนี้น่าสังเกตตรงที่ ไม่ว่าจะเครื่องดื่มอะไร...เค้าก็จะแช่ไม่ค่อยเย็น บางทีก็ใส่น้ำแข็งน้อยๆ
   ต่างกับบ้านเราที่อัดน้ำแข็งมาเต็มถุง เต็มแก้ว เพื่อให้เย็นๆ


   ช่วงกลางวันเราต้องไปทำธุระต่อกับเพื่อนชาวอินโดนีเซีย 
   ขอวาร์ปมาช่วงทานข้าวเย็นกันเลยละกัน

   ร้านนี้เป็นร้านข้าวแกง ดูคล้ายๆของไทยเลย

   อาหารตัวอย่างในตู้โชว์

   ข้าวรูปเจดีย์อันนี้ เค้าบอกว่า เป็นข้าวที่กินกันในวันเกิด บางทีมาจานใหญ่ๆ สูงท่วมหัวคนเลยก็มี เราพยายามจะสั่งเมนูนี้ แต่น่าเสียดายที่เมนูนี้หมดพอดี

   วันนี้ชิมร้านนี้ละกัน บะหมี่เส้นนวดสดๆ

  Mee Kang Kung บะหมี่ไก่น้ำข้น ใส่ผักบุ้ง ลูกกลมๆขอบชาม คือ มะกรูดจิ๋วผ่าซีก เค้าบอกว่า ต้องบีบมะกรูดใส่ลงไป จึงจะได้รสชาติแบบอินโดนีเซีย เส้นบะหมี่เหนียวนุ่มลิ้น น้ำซุปเหนียวข้น เค็ม หวาน เผ็ดพริกไทย คาดว่าน้ำซุปน่าจะมีส่วนผสมของเห็ดหอมและเครื่องยาจีน อร่อยดี

   โอ๊ะ..ชาที่นี่ให้มาเป็นซองเลย ว่าแต่ทำไมประเทศนี้ให้น้ำแข็งน้อยมาก ไม่ค่อยจะกินน้ำเย็นกันเลย

หลังจากเสร็จธุระช่วงเย็น เราบอกเพื่อนอินโดว่า อยากจะไปดู "Street Food" ของที่นี่ เพื่อนก็จัดให้ พาพวกเราไป "ถนน Sabang" ซึ่งเพื่อนบอกว่าเป็นแหล่งชื่อดังของจาร์กาต้า

   เดินมา ก็เจอกับร้านนี้ "Matabak" มันคือ มะตะบะ นั่นเอง แต่ไม่เหมือนบ้านเราหรอกนะ 
   ว่าแต่...ดูสิ ร้านแผงลอย ของกินราคาเป็นหมื่นเลย 555

   มะตะบะรสหวาน รูปร่างเหมือนกระทง แป้งคล้ายแพนเค้ก ใส่เครื่องหวานๆ เช่น ช็อคโกแล็ต ถั่ว ราดนมข้นหวาน

   อันนี้ วิสกี้โคล่า พอดี N เค้าอยากกิน

   อันนี้ร้าน"Pempak"ลูกชิ้นปลา อันใหญ่
   ของไทยเรา จะเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่ลูกชิ้นปลา
   แต่ที่นี่ เน้นกินลูกชิ้นปลา ใส่เส้นนิดเดียว 

   หน้าตาเป็นแบบนี้
  
   Pempak ลูกชิ้นปลาลูกยักษ์ สอดไส้ด้วยไข่ต้ม น้ำซอสรสชาติ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด กลิ่นซีอิ๊วดำ
   คล้ายน้ำราดขนมกุยช่าย แต่รสอ่อนกว่า ใส่แตงกวาสับ และเส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ

   N กับ มะตะบะหวาน ไส้ช็อคโกแล็ต


  จากนั้นเราก็กลับโรงแรมไปพักผ่อน

   อาหารเช้าวันถัดมา มันเทศทอดคลุกเกลือและเครื่องเทศ

   Nasi Goreng Ikan Asin ข้าวผัดปลาตัวเล็กทอดกรอบ โรยข้าวเกรียบ...อีกแล้ว

   Gado Gado สลัดแขก น้ำสลัดรสชาติแบบน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ หวาน มัน ข้าวเกรียบ...อีกแล้ว

   ลูกชิ้นปลา ราดน้ำจิ้มสะเต๊ะ วางมะกรูดลูกเล็กๆผ่าซีกมาให้ด้วย

   ขนมหวานน้ำแข็งไสกะทิ สไตล์อินโด
   อะโวคาโด มะพร้าวอ่อน ขนุน ราดน้ำกะทิหวานๆ โปะน้ำแข็ง อร่อย สดชื่น


จากนั้น มาเดินเล่นห้าง Fx 

เอ๊ะ.. นั่นอะไร

   ห้าง Fx แห่งนี้ มีจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว คือ สไลเดอร์ภายในห้าง เมื่อซื้อบัตรแล้ว นั่งท่องเที่ยวจะได้นั่งไปบนเบาะและสไลด์จากชั้น 4 ลงมายัง ชั้น 1 ของห้าง ด้วยราคาค่าตั๋วประมาณ 300 บาท เป็นระยะทาง 47.3 เมตร และใช้เวลาสไลด์เพียง 7 วินาที

แต่ขณะที่ถ่ายรูปนี้ เป็นเวลาที่เช้าเกินไป สไลเดอร์จึงยังไม่เปิดให้บริการ



   ดูน่าตื่นเต้นเร้าใจมาก

จากนั้นก็แวะไปอีกห้างหนึ่ง คือ ห้าง Grand Indonesia เป็นห้างใหญ่ห้างหนึ่งของ จาร์กาต้า

   โซนขายของพื้นเมืองอินโด




   อันนี้เป็นนิทรรศการจัดแสดงรำลึกถึงวีรบุรุษผู้นำของแอฟริกา เขาชอบใส่เสื้อลายของอินโด และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับอินโด

   โดนัทจิ๋ว น่ารักดี อร่อยด้วย



   จากนี้เราจะลองไปดู"เกมส์เซนเตอร์"ของอินโดนีเซียกัน

   เกมส์เซ็นเตอร์ที่นี่ ไม่ได้ใช้ระบบเล่นโดยหยอดเหรียญ แต่ใช้ระบบบัตรเติมเงิน ราคาเริ่มต้นที่ 8 หมื่นรูเปีย หรือประมาณ 100 กว่าบาท เกมส์หนึ่งตา ราคาประมาณ 15-30 บาท

   บรรยากาศภายในเกมส์เซ็นเตอร์

   พอเก็บสะสมแต้มจากการเล่นเกมส์ได้ ก็นำมาแลกของรางวัลที่นี่ มีของให้แลกเยอะมากอย่างกับร้านโชว์ห่วย

   ตู้ฉลาม

   ตู้มอเตอร์ไซค์ อย่างเท่ห์

   ตู้ยิงปืนฉีดน้ำล้างเท้าเหม็นๆ !? อะไรกันนี่ 555

   เครื่องนี้น่าเล่นมากๆ

   ตู้คีบตุ๊กตา ท่าทางจะคีบง่ายกว่าของไทย


เดินออกมาอีกหน่อย...ก็มาเจอกับร้านนี้เข้า... อะไรเนี่ย "Ron's Laboratory"

   Ron's Laboratory ร้านไอศครีมคอนเซ็ปต์แล็บทดลองวิทยาศาสตร์ !?

   Ron's Laboratory พนักงานในร้านแต่งตัวด้วยเสื้อกาวน์สีขาว ถุงมือ แว่นตา และผ้าปิดปาก ราวกับนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังทำการทดลอง เมื่อเราสั่งไอศครีมกับทางร้าน พนักงานจะเทไนโตรเจนเหลวลงในชามไอศครีมเพื่อให้ไอศครีมแข็งตัว เกิดเป็นควันคลุ้งไปทั่ว ชวนให้รู้สึกตื่นเต้น

   รถไฟในห้าง ?? เห็นว่าแต่ก่อนเป็นร้านอาหารน่ะนะ

   แวะไปเข้าห้องน้ำในห้าง ตกใจ มีห้องละหมาดอยู่ติดกัน เกือบเดินเข้าผิดห้อง


   เบียร์ท้องถิ่นของอินโดนีเซีย "Bintang" แปลว่า ดาว

   จากนั้นเราก็ยกขโยงกันมากินข้าวเย็นที่ร้านนี้ "Kafe Betawi"
   เป็นร้านอาหารอินโดนีเซียขึ้นเหลา

   ท้องร้องแล้ว 

   ดูเมนูกันดีกว่า รูปถ่ายอาหารสวยงามดี จึงเก็บภาพมาฝากกัน

    หน้านี้น่าจะเป็น Nasi Goreng ตระกูลข้าวผัดอินโดนีเซีย

   อาหารน้ำแกง ส่วนใหญ่ใส่กะทิกับเครื่องเทศ

   แกงมีหลากหลายจริงๆ

    ตระกูล Nasi Uduk ข้าวและกับข้าวหลายๆอย่าง


    อาหารเส้น


   Ayam แปลว่า ไก่

   เหวอ...ข้าวเกรียบ



   ของหวาน

   "แคปวัว" ที่นี่ส่วนใหญ่นับถืออิสลาม จึงไม่มีแคปหมู มีแแต่แคปวัวไร้มัน อร่อยดี ชอบ หอมกลิ่นเนื้อวัว

   จึ๋ย..กลิ่นแรง..Tempe ถั่วหมักดินโดทอด กลิ่นแรงเหมือนพวกถั่วหมักญี่ปุ่น 
   เวลากิน ให้เอาน้ำจิ้มสะเต๊ะราด ...ที่นี่กินกับน้ำจิ้มสะเต๊ะเกือบทุกอย่างแหละ อิอิ

   Rujak บะหมี่ในน้ำแกงคล้ายๆแกงมัสมั่น ใส่เต้าหู้ทอด ผักกาดหอม มันฝรั่ง ปลาหมึกแห้ง
   อย่าลืม...มะกรูดลูกจิ๋ว และข้าวเกรียบ!!

   Soto Betawi ของแปลกมาแล้ว แกงกะทิใส่เครื่องในวัว
   มีอิมเมจคล้ายๆกับต้มข่า แต่ว่าของเค้ามีแต่รสจืดๆมันๆกับกลิ่นเครื่องเทศนะ
   ซดคล่องคอ พอกินได้

   Nasi Uduk ข้าวหุงกะทิ ไก่ย่าง ไข่เจียวซอย ผัดเผ็ดถั่วหมักอินโด(Tempe) แน่นอนว่ามีข้าวเกรียบ...

  ข้าวเกรียบ Everywhere ข้าวเกรียบเต็มไปหมด นี่ล่ะ อาหารอินโด อิอิ


  จากนั้นเราก็กลับไปพักผ่อนต่อที่โรงแรม

  เช้าวันถัดมา เพื่อนอินโดก็ซื้อขนมท้องถิ่นอินโดมาฝาก

    อันเขียวๆเป็นข้าวต้มมัดไส้ไก่สับรสเค็มหวาน 
    ลูกกลมๆเป็นแป้งทอดไส้ถั่วบดคลุกงาขาวคล้ายๆของบ้านเรา 
    แท่งสีขาวๆเป็นขนมคล้ายๆวุ้นกะทิ 
    แท่งๆข้างล่างคล้ายๆกับเปาะเปี๊ยะทอด

   ข้าวต้มมัดไส้ไก่สับรสเค็มหวาน 

   กินข้าวเสร็จ ออกไปนั่งรถชมวิวรอบเมืองจาร์กาต้า

   อนุสาวรีย์อันนี้ เป็นสัญลักษณ์ของอินโดนีเซีย ซึ่งข้างบนปั้นเป็นรูปลูกไฟด้วยทองคำแท้ๆ

   นกยูง สัญลักษณ์ของจาร์กาต้า

   จากนั้นก็มาแวะชมที่ร้านคาเฟ่ร้านนี้ "The Droids Coffee n' Grill"

   "The Droids Coffee n' Grill" เป็นคาเฟ่ร้านอาหารแนวของเล่นประเภทแอ๊คชั่นฮีโร่ฟิคเกอร์

   ภายในร้านแห่งนี้ คุณจะได้ชื่นชมกับของเล่นสะสมมากมาย ไปพร้อมๆกับการทานอาหาร นัดพบปะสังสรรค์เพื่อนฝูง และถ้าคุณรู้สึกชอบใจของเล่นของสะสมในร้านชิ้นไหน ก็สามารถซื้อได้ด้วยนะ

   มีฟิคเกอร์เยอะมาก ส่วนใหญ่จะเป็นแอ๊คชั่นฮีโร่ มาร์เวล สตาร์วอร์ และหุ่นยนต์จากการ์ตูนญี่ปุ่น

   มีของหายากให้ดูกันเพลินๆ

   โต๊ะอาหาร ก็มีของเล่นโชว์

   มีเมนูอะไรบ้างน้า

   มัสคอตของร้านนี้

   ขึ้นไปดูชั้น 2 ได้ด้วยนะ

   ชั้น 2 ของแน่นมากๆ เดินลำบาก

   สตาร์วอร์เพียบ

   มุมนั่งเล่น สบายๆ รายล้อมด้วยหุ่นยนต์
 
   หิวแล้ว สั่งอาหารกันดีกว่า

   หน้าตาเมนูของร้านนี้

    กรีนที ลาเต้ แบทแมน??

 สตรอเบอร์รี่โซดา มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้ง

    Nasi Goreng (ข้าวผัด)เหมือนเดิม ข้าวเกรียบก็มาด้วยเหมือนเดิม

   เราขอกินธรรมดาๆบ้าง ข้าวไก่ผัดพริกไทยดำ

   จากนั้นเราก็ขึ้นเครื่องกลับไทย
   และสั่งอาหารบนเครื่องมาชิมเหมือนเดิม

   เมนู Nasi Goreng Special

   Nasi Goreng Special คือ ข้าวหมกแบบอิสลาม น้ำพริกเผา และสะเต๊ะไก่ ดีที่ไม่มีข้าวเกรียบตามมาหลอกหลอน...อย่าลืมว่า สะเต๊ะ ของอินโด ต้องออกเสียงว่า "สะไต๊"

ทริปทัวร์ชิมอินโดนีเซีย ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ 
ทริปทัวร์ชิมครั้งหน้าจะมีอะไรบ้าง โปรดติดตามชม

Mumu & N